เมื่อได้รับข้อมูลจากซีพียูมาการ์ดแสดงผล ก็จะเก็บข้อมูลที่ได้รับมาไว้ในหน่วยความจำส่วนนี้นี่เอง ถ้าการ์ดแสดงผล มีหน่วยความจำมากๆ ก็จะรับข้อมูลมาจากซีพียูได้มากขึ้น ช่วยให้การแสดงผลบนจอภาพ มีความเร็วสูงขึ้น และหน่วยความจำที่มีความเร็วสูงก็ยิ่งดี เพราะจะมารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ยิ่งถ้าข้อมูล ที่มาจากซีพียู มีขนาดใหญ่ ก็ยิ่งต้องใช้หน่วยความจำที่มีขนาดใหญ่ๆ เพื่อรองรับการทำงานได้โดยไม่เสียเวลา ข้อมูลที่มี ขนาดใหญ่ๆ นั่นก็คือข้อมูลของภาพ ที่มีสีและความละเอียดของภาพสูงๆ
ลักษณะการทำงาน VGA Card
การทำงานแบบ text mode
การทำงานแบบgraphic mod
โครงสร้าง VGA card
ช่อง Video - in สำหรับไฟล์วีดีโอจากกล้องวีดีโอ
ช่อง Vdeo-out สำหรับแสดงไฟล์วีดีโอออกไปยังอุปกรณ์ภายนอก
ช่องTV out สำหรับต่อเข้ากับTV
ประเภทของการ์ดแสดงผล
อุปกรณ์ตัวนี้เป็นตัวสำคัญในการกำหนดว่าจะมีอะไรไปออกที่จอภาพได้บ้าง รวมไปถึงความละเอียดและสีที่จะแสดงออกบนจอภาพ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับโครงสร้างของวงจรบนการ์ด และมีส่วน สัมพันธ์กับชอฟต์แวร์ที่จะให้ในการแสดงผลเป็นอย่างมาก ต่อไปนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการ์ด
แสดงผลในแต่ละแบบ
MDA (Monochrome Display Adapter) เป็นการ์ดแสดงผลรุ่นแรกของไอบีเอ็ม นิยมใช้กับจอโมโนโครมสามารถแสดงผลได้เฉพาะข้อความ (text) เท่านั้น และแสดงได้เพียงสีเดียว
ไม่สามารถแสดงรูปกราฟิกใด ๆ ได้ เนื่องจากเป็นข้อจำกัดของการ์ดแสดงผลเอง ปัจจุบันนี้แทบ
จะไม่มีใช้กันแล้ว เพราะว่าชอฟต์แวร์ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การแสดงผลกราฟิกและสีสัน
ที่สวยงาม
CGA (Color Graphics Adapter) เป็นการ์ดรุ่นถัดมาของไอบีเอ็มที่สามารถแสดงได้ทั้ง
ข้อความและรูปภาพ โดยสีที่แสดงจะได้สูงสุดถึง 16 สี แต่จะขึ้นอยู่กับความละเอียดในการแสดง
ผลด้วยกล่าวคือ ถ้าความละเอียดในการแสดงผลมาก จำนวนสีที่แสดงได้ก็น้อยลง เช่น ถ้ามีความ-
ละเอียดในการแสดงผลสูงสุด 640 X 200 จุด จะสามารถแสดงสีได้เพียง 2 สีเท่านั้น คือขาวกับดำ
แต่ถ้าเป็นความละเอียด 320 X 200 จุด ก็จะแสดงสีได้ 4 สี เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องมาจากหน่วยความ
จำบนการ์ดมีอยู่อย่างจำกัดหน่วยความจำที่ว่านี้ก็คือวิดีโอแรมที่ใช้เก็บรูปภาพบนจอ ถ้านำหน่วย
ความจำนี้ไปใช้ในการเก็บสีจำนวนมากแล้ว ก็จะเหลือหน่วยความจำที่ใช้เก็บรูปภาพได้น้อยลง
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ถ้าความละเอียดในการแสดงผลสูงขึ้นจำนวนสีที่แสดงได้ก็จะน้อยลง
PGA (Professional Graphic Adapter) เป็นการ์ดแสดงผลอีกรุ่นหนึ่งของไอบีเอ็ม ที่มีความ
สามารถในการแสดงผลสูงกว่า EGA โดยสามารถแสดงสีได้ 256 สีพร้อมกันจากทั้งหมด
4096 สี ความละเอียดถึง 640 X 480 จุด การ์ดชนิดนี้ถูกออกแบบมาสำหรับจอ PGA โดยเฉพาะ
เหมาะสำหรับใช้งานกับโปรแกรมที่เน้นทางด้านกราฟิก เช่น CAD/CAM หรือโปรแกรมวาดรูป
ต่าง ๆ ถ้าจะสังเกตให้ดี คุณภาพของการ์ดนี้จะพอ ๆ กับการ์ดแบบ EGA ของบริษัทอื่นที่ไม่ใช่
ไอบีเอ็ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความละเอียดหรือสีดังนั้นการ์ดขนิดนี้จึงไม่แพร่หลายเท่าที่ควร โดย-
เฉพาะในบ้านเราจะไม่ค่อยได้ยินชื่อการ์ดชนิดนี้กันมากนัก
MCGA (Multi-Color Graphics Array) เป็นการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ที่ไอบีเอ็มออกมาเพื่อให้
ใช้งานกับเครื่อง PS/2 ในรุ่นเล็ก ๆ (model 25 และ 30) ความสามารถในการแสดงผลจะสูงกว่า
EGA คือความละเอียดสูงถึง 640 X 480 จุด แสดงสีได้ 2 สี แต่ถ้าเป็นโหมดความละเอียด
320 X 200 จุด จะสามารถแสดงสีได้ถึง 256 สี การ์ดชนิดนี้สามารถทำได้ทุกอย่างเทียบเท่ากับ
การ์ด แต่จะยกเว้นเพียงบางโหมของ EGA เท่านั้น
VGA (Video Graphics Array) เป็นการ์ดแสดงผลสำหรับเครื่อง PS/2 อีกรุ่นหนึ่งที่มี
ความสามารถสูงกว่า MCGA โดยสามารถแสดงสีได้ถึง 16 สี ที่ความละเอียด 640 X 480 จุด
หรือจะเลือกความละเอียด 320 X 200 จุด ซึ่งเลือกสีได้มากถึง 256 สี การออกแบบการ์ด VGA
นั้นมุ่งเน้นไปที่ให้มีความสามารถในการรองรับการแสดงผลทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น CGA หรือ EGA ดังนั้น ชอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ใช้กับการ์ดแสดงผลแบบ CGA และ
EGA จึง
Super VGA มักจะมีการกล่าวถึง Super VGA .ในทางช่วยส่งเสริม เช่น มีสีมาก
ขึ้นหรือมีความละเอียดสูงขึ้น ซึ่งช่วยให้มั่นใจในความเข้ากันได้กับ VGA คำแนะนำของ
VESA คือจะต้องมีความละเอียด 800 X 600 และ 16 สี แต่ผู้ผลิตมักจะผลิตบอร์ดที่มี
256 สี หรืออาจจะกล่าวถึงบอร์ดที่ให้ความละเอียด 1,024 X 768 ว่าเป็น Super VGA
tip And Technique
1.การกำจัดไวรัสที่ช่อนในโฟลเดอร์